สาวเซ็กซี่ ปล่อยคลิปเต้นออกกำลังกายช่วงกักตัว ทำเอาหนุ่มๆใจฟุ้ง

สาวเซ็กซี่ ปล่อยคลิปเต้นออกกำลังกายช่วงกักตัว ทำเอาหนุ่มๆใจฟุ้ง

ทำเอาหนุ่มๆใจบางอีกแล้ว หลัง สาวเซ็กซี่ หน้าอกคัพ G ปล่อย คลิปเต้น ออกกำลังกายลดน้ำหนักช่วงกักตัว ชาวเน็ตแซวหาพุงไม่เจอ เมื่อวันที่ 27 เมษายน เว็ปไซต์ ETToday ได้รายงานถึงกระแสไวรัลในไต้หวัน หลังจากที่เน็ตไอดอลสาว Yumi.K เจ้าของหน้าอกหน้าใจไซส์ G ได้ออกมาถ่ายคลิปตนกำลังออกกำลังกายในช่วงที่ตนกักตัวตามมาตรการโควิด-19

ด้วยความว่างเธอจึงปล่อยคลิปของตนออกกำลังกายด้วยการ 

มือแตะขาของตัวเองสลับกันไป ทำเอาหนุ่มๆใจฟุ้งกันไปตามๆกัน โดยเธอเขียนข้อความกำกับว่า “โดน Douyin ล้างสมองแล้วก็ออกมากระโดดบ้าง เห็นพุงอ้วน ๆ ที่แกว่งไป-มานั่นไหม ครั้งแรกที่กระโดดฉันก็ไม่คิดว่าจะยากอะไรเบอร์นั้น แต่จนครั้งที่ 4 ก็ทำเอาขาอ่อนแรง แล้วจากนั้นอีก 2 วัน ก็ยกขาไม่ขึ้นเลย

แม้ว่าคลิปนี้จะมีความยาวแค่ 32 วินาที แต่ก็มีหนุ่มๆออกมาแสดงความเห็นถึงความน่ารักสดใส (และไม่รู้ว่าจะโฟกัสตรงไหนดี) ของเน็ตไอด้อลตรงนี้ ซึ่งก็มีชาวเน็ตแซวว่าดูวนมาตั้ง 3 ชั่วโมง หาพุงยังไม่เจอเลย ปัจจุบันคลิปดังกล่าวมีคนดูแล้วกว่าแสนครั้ง และปัจจุบัน Yumi.K นั้นมีผู้ติดตามแล้วกว่าล้านคน

ในการขึ้นศาลครั้งนี้ตัวของเดปป์ ยอมรับว่าเขาและอดีตภรรยาเคยทะเลาะกัน แต่ไม่มีครั้งไหนที่เขาลงมือทำร้ายร่างกายของ เฮิร์ด และเขายืนกรานด้วยว่า เขาไม่เคยทำร้ายผู้หญิงคนไหนในชีวิตของเขาเลยด้วยซ้ำ ในส่วนของประเด็นการใช้ยาเสพติดนั้น เดปป์ ระบุว่า เขาไม่ได้ใช้ยาเพื่อความสนุก แต่เขาใช้ยาเพื่อหลบหนีชีวิตที่ยุ่งเหยิงจากการถูกแม่ทำร้ายร่างกาย

รวมถึงยังมีการเล่าวินาทีที่ขี้บนเตียงอีกด้วย โดย เดปป์ กล่าวหาว่า เฮิร์ด หรือ เพื่อนของเธอขี้บนเตียงเขา หลังจากที่พวกเขามีปากเสียงกันภายในวันเกิดของเธอ

ซึ่งชาวเน็ตหลายคนได้ร่วมติดแฮชแท็ค #JusticeForJohnnyDepp เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับนักแสดงหนุ่ม หลังจากที่ชีวิตการแสดงของเขาพังทลายลง หลังจากที่ทางนักแสดงสาว เล่าเรื่องการหย่าร้าง และกล่าวหาอดีตสามีว่าใช้กำลังกับเธอ ซึ่งในบทความนั้นไม่ได้มีการกล่าวถึงชื่อของ เดปป์ แต่อย่างใด ทั้งนี้จากการขึ้นศาลก่อนหน้านี้ ทาง เดปป์ ได้ยื่นเอกสารยืนยันว่า ในบทความเป็นการพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกตน ก่อนจะหย่าร้างกันไปในปี 2560

สมเด็จฮุนเซน ถูกประชาชน ปารองเท้าใส่ ขณะเยือนสหรัฐฯ ผู้ปาลั่นอยากทำแบบนี้มานานแล้ว ต้องการทำให้สมเด็จฮุนเซนขายหน้า เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม สำนักข่าว RFA รายงานว่า สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ถูกปารองเท้า ขณะเดินทางไปเยือนประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าร่วมประชุม ประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-13 พฤษภาคม 2565 นี้

โดยในขณะที่มีประชาชนขอถ่ายรูปเซลฟี่กับ สมเด็จฮุนเซน บริเวณหน้าโรงแรมนั้นก็มีผู้ที่ขว้างรองเท้าเข้ามาในมวลชน แต่รองเท้านั้นพลาดเป้าไม่โดน สมเด็จฮุนเซน

ซึ่งผู้ที่ปารองเท้าได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว RFA ว่า “ผมรู้สึกโล่งอกและนอนหลับสบายที่ได้ปารองเท้าใส่สมเด็จฮุนเซน ผมอยากทำแบบนี้มานานแล้ว ผมอยากให้เขารู้สึกอับอาย ผมปารองเท้าใส่ฮุนเซน แต่ฮุนเซนปาระเบิดใส่ประชาชนกัมพูชา ในการชุมนุมอย่างสงบสุข เขาฆ่าประชาชนเป็นจำนวนมาก รวมถึงญาติผมด้วย”

โดยในช่วงวันที่ 12-13 พฤษภาคมนี้ นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะเข้าหารือกับกลุ่มผู้นำในประเทศอาเซียน ถึงประเด็นต่างๆ ซึ่งหลายฝ่ายจับตามองว่าจะมีการหารือถึงปัญหาสิทธิมนุษยชนในกัมพูชาด้วยหรือไม่ ทั้งนี้รองอธิการบดีโฆษกทำเนียบขาวระบุว่า นายไบเดน และคณะรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงถึงภาวะสิทธิมนุษยชน พร้อมระบุว่าผู้นำสหรัฐฯจะไม่เกรงใจกับการแสดงความเห็นถึงประเด็นดังกล่าว

เกาหลีเหนือ เผย พบผู้เสียชีวิตจากโควิดแล้ว 6 ศพ หลังเพิ่งประกาศพบผู้ป่วยรายแรก

หลังจากที่ เกาหลีเหนือ ประกาศพบผู้ป่วย โควิด รายแรกเมื่อวานนี้ ล่าสุดทางเกาหลีเหนือระบุว่าพบผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ศพ และป่วยอีกเพียบ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า สื่อในประเทศเกาหลีเหนือได้ออกมาเปิดเผยว่าพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในประเทศเกาหลีเหนือแล้ว 6 ราย หลังจากที่เมื่อวานนี้สื่อเกาหลีเหนือรายงานว่าพบผู้ป่วยโควิด-19 รายแรก

โดยสื่อในประเทศเกาหลีเหนือระบุว่า ขณะนี้มีประชาชนที่มีไข้กักตัวและอยู่ภายใต้การรักษาอีก 187,000 ราย ซึ่งสื่อเกาหลีเหนือบรรยายอาการป่วยนี้ว่า “เป็นไข้ที่ไม่ทราบว่ามีต้นตอจากอะไร และแพร่เชื้อทั่วประเทศตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน”

ก่อนหน้านี้ประเทศเกาหลีเหนืออ้างว่าไม่เคยพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในช่วงตลอดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2563 อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายเชื่อว่าเชื้อไวรัสน่าจะเข้าไปแพร่ระบาดภายในประเทศเกาหลีเหนือก่อนหน้านี้แล้ว

ทั้งนี้ประเทศเกาหลีเหนือไม่ได้เข้าร่วมโครงการแบ่งปันวัคซีนโควิดหรือ โคแวกซ์ นอกจากนี้ยังไม่มีรายงานที่แน่ชัดด้วยว่าทางเกาหลีเหนือได้นำเข้าวัคซีนโควิดหรือไม่

โดยสถานการณ์โควิดเกาหลีเหนือ อาจจะสร้างความปั่นป่วนให้กับประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากประเทศเกาหลีเหนือไม่น่าจะมีศักยภาพเพียงพอในการรับมือกับผู้ป่วยจำนวนมาก

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป