เงินบาทแข็งค่ารอบ 6 ปี ส่งออกทรุด เดือน พ.ค. ติดลบ 5.8 ครึ่งปี 62 กราฟร่วง

เงินบาทแข็งค่ารอบ 6 ปี ส่งออกทรุด เดือน พ.ค. ติดลบ 5.8 ครึ่งปี 62 กราฟร่วง

การส่งออกไทย – วันที่ 22 มิ.ย. สร้างความหวั่นใจให้กับผู้ส่งออกอย่างหนัก หลังเงินบาททุบสถิติแข็งค่าที่สุดในรอบ 6 ปี อยู่ที่  30.86 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ (21 มิ.ย.) เงินบาทแข็งค่าขึ้นเร็วเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยภายนอก เช่น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน

ขณะที่หันมาดูสถานการณ์ตลาดการส่งออกของไทย 

ตั้งแต่ต้นปี 2562 5 เดือนแรกพบว่า  การส่งออกมีมูลค่าราว 1.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 2.70% การนำเข้ามีมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 0.99% เดือนพ.ค.เดือนเดียวการส่งออกมีมูลค่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงถึง 5.8% ติดลบต่อเนื่องจากเดือน เม.ย. ที่หดตัว 2.5%

ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00 ของเมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.) จนถึงเช้าวันนี้ ลูกค้าธนาคารกรุงเทพไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินใดๆ ได้ แม้แต่ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็ม และที่หน้าตู้เอทีเอ็มขึ้นคำว่า ‘การสื่อสารขัดข้อง ไม่สามารถทำรายการได้’ และขณะนี้ยังไม่มีการชี้แจงจากทางธนาคารอย่างเป็นทางการ

ด้านในเฟสบุ๊ก Bangkok Bank Credit Card มีลูกค้าที่ประสบปัญหาเข้าไปต่อว่าจำนวนมาก โดยหลายคนถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะไม่มีการประกาศเตือนใดๆ จากทางธนาคาร โดยทางธนาคารตอบทางเฟสบุ๊กเพียงว่าขออภัยที่ระบบขัดข้องเท่านั้น ส่วนการโทรเข้า call center ก็ยาก และรอนานกว่าจะมีคนรับสาย หลายรายทวีตว่ารอสายกว่า 20 นาทีก็ไม่มีใครรับสาย

แม่ขโมยเงินกฐิน 160 บาท – เป็นเรื่องราวที่ได้อ่านแล้วสุดสะเทือนใจ เมื่อตำรวจร้อยเวรเขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร ได้โพสต์เล่าการทำคดีที่ฟังแล้วต้องน้ำตาไหล

เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อนางไก่ (นามสมมติ) อายุ 54 ปี แอบลักเงินทำบุญกฐินซึ่งวางไม้เสียบไว้ในห้างแห่งหนึ่งที่นางไก่รับจ้างล้างจานในฟูดคอร์ท เธออ้างว่าที่ต้องขโมยเงินเพราะจะเอาเงินไปซื้อข้าวให้ลูก 2 คนกิน วัย 12 และ 13 ปี

พ่อของเด็กตายไปตั้งแต่ลูกคนเล็กเกิดได้ 8 วัน เนื่องจากอุบัติเหตุ​ทำงานบนที่สูง ทาสีบนอาคาร ตกลงมาเสียชีวิต ปัจจุบันนางไก่มีรายได้วันละ 300 บาทจากการรับจ้างล้างจานในร้านฟาสฟู๊ด ขณะมีภาระค่าเช้าบ้าน 3,300 ยังไม่รวมค่าเงินขนมให้ลูกไปโรงเรียน

คดีนี้เป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ นางไก่ต้องไปขึ้นศาล เมื่อลูก ๆ ได้รู้ความจริงถึงสิ่งที่แม่ทำเพื่อตนก็ร้องไห้โฮ ลูกสาวคนเล็ก ไปบอกร้านฟาสฟู้ด​ที่แม่ทำงานเพื่อแจ้งว่าแม่มีธุระต้องไปศาล ขอลางาน1วัน ผู้จัดการร้านก็ไม่เชื่อ

ภาพเด็กน้อยที่ต้องนอนเฝ้าแม่ตนจากนอกห้องขังเป็นฉากที่สะเทือนใจนายตำรวจท่านนี้อย่างมาก

หลังจากนั้น นายตำรวจร้อยเวรได้รายงานความคืบหน้าคดีดังกล่าวเป็นระยะ ระบุว่า

ศาลให้ชำระเงินค่าปรับ 5,000 บาท แต่ศาลมีเมตตาให้เลื่อนชำระค่าปรับได้ถึงวันที่ 4 ตุลาคม (มีอีกทางออกคือให้ทำงานบริการสังคม ทดแทนค่าปรับ ตาม ป.อาญา มาตรา 30/1 เป็นเวลา 10 วัน วันละ 4 ชั่วโมง แต่ทางเจ้าหน้าที่ศาลและทางตัวผู้ต้องหาเห็นพ้องกันว่าถ้าต้องมาทำวันละ 4 ชั่วโมง จะทำให้ขาดรายได้)

นับว่าเป็นโชคดี เพราะต่อมามีผู้ใจบุญ โอนมาช่วยเหลือเรื่องค่าปรับจนครบถ้วนเป็นเงิน 5,000 บาท จะไปดำเนินการชำระในวันเสาร์นี้ (วันหยุดงานของแม่)

รัฐบาลสหรัฐฯหารือ Facebook, Google เตรียมรับมืออาชญากรรมไซเบอร์ ช่วงเลือกตั้งปี 2020

สื่อต่างประเทศรายงานว่าเหล่าผู้นำด้านเทคโนโลยีรายใหญ่ของโลกอย่าง Google, Facebook, Microsoft และ Twitter ได้มีการรวมตัวเข้าพบเจ้าหน้าที่รัฐฯเพื่อหารือเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาความปลอดภัยด้านไซเบอร์ เพื่อเตรียมรับมือกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2020

โดยสี่ยักษ์ใหญ่แห่งเทคโนโลยี มีการเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ทั้งจาก FBI, หัวหน้าเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองและกองงานความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ซึ่งการหารือครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การหาวิธีป้องกันการปลุกปั่นด้วยข้อมูลเท็จซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วในช่วงของการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016

สื่อต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯโดยนาย Mike Pence และประธานาธิบดีปแลนด์ Andrzej Duda ได้มีการลงนามข้อตกลงเพื่อกระชับแนวทางด้านความปลอดภัยของเทคโนโลยี 5G และลงความเห็นว่าผู้ให้บริการอุปกรณ์ 5G จากต่างชาติจะต้องมีการตรวจสอบประเมินอย่างเคร่งครัด ซึ่งดูเหมือนจะเป็การเดินหมากในการกันจีนออกจาก 5G แต่ไม่ได้มีการอ้างชื่อของหัวเว่ยเป็นการเฉพาะแต่อย่างใด

โดยข้อตกลงดังกล่าวมีใจความหลักว่า “การปกป้องหรือการจัดการเน็ตเวิร์คการสื่อสารของเจนเนอเรชั่นต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพส่วนบุคคลของประชาชนชาวสหรัฐอเมริกา โปแลนด์และประเทศอื่นๆจากการบ่อนทำลายนั้น มีความสำคัญอย่างมาก” ทั้งนี้คงต้องรอดูท่าทีของประเทศต่างๆว่าจะมีความเห็นเกี่ยวกับข้อตกลงนี้ไปในทิศทางไหน.

ย้อนหลับไปในเดือนมกราคม ได้มีการจับกุมพนักงานชาวจีนของหัวเว่ยและอดีตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวโปแลนด์ในข้อหาสอดแนมข้อมูล แต่หัวเว่ยก็ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา และคดียังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวน ขณะที่หัวเว่ยมีเวลาถึง 19 พฤษจิกายนนนี้เท่านั้นในการให้บริการผู้ที่ใช้งานหัวเว่ยอยู่ หลังจากสหรัฐฯยืดเวลาเพิ่มให้อีก 90 วัน เป็นครั้งที่ 2.

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป