เลขาเพื่อไทย เผยที่ประชุมมีมติ ขับ ศรัณย์วุฒิ-พรพิมล ส.ส.งูเห่า โหวตสวนอภิปรายไม่ไว้วางใจให้พ้นพรรค นาย ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงมติคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ว่า ได้พิจารณารายงานการสอบสวนวินัยและจริยธรรมของคณะกรรมการวินัยและจริยธรรม นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ และ นางสาวพรพิมล ธรรมสาร สอง ส.ส. งูเห่าที่โหวตสวนมติพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยมีมติดังนี้
นาย ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ มีพฤติการณ์กล่าวหาพรรคและผู้บริหารของพรรคด้วยการแถลงต่อสื่อมวลชนหลายครั้งติดต่อกัน
อันมีลักษณะเป็นปฏิปักษ์ต่อพรรค เป็นการทำลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงของพรรค ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพรรคอย่างร้ายแรง การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคเพื่อไทย พ.ศ. 2561 ข้อ 19 (3) และ (8) และเป็นการกระทำผิดวินัยและจริยธรรมของการเป็นสมาชิกพรรคตามข้อบังคับพรรคข้อ 113 (3) และ (5) จึงเห็นชอบด้วยมติเอกฉันท์ให้ลงโทษนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ด้วยการให้พ้นจากสมาชิกภาพตามข้อบังคับพรรคข้อ 118 (4) ตามความเห็นของคณะกรรมการวินัยและจริยธรรม
นางสาวพรพิมล ธรรมสาร มีพฤติการณ์ฝักไฝ่พรรคการเมืองอื่น ไม่ยึดมั่นในเจตนารมณ์และอุดมการณ์ของพรรค อีกทั้งเป็นการกระทำผิดซ้ำสองในพฤติการณ์เดียวกัน ซึ่งพรรคเคยมีมติลงโทษไปแล้ว ตามคำสั่งพรรคเพื่อไทยที่ 0045/2563 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งการฝักไฝ่พรรคการเมืองอื่นของนางสาวพรพิมล ธรรมสาร ถือเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคเพื่อไทย พ.ศ. 2561 ข้อ 19 (3) และ (7) และถือเป็นการกระทำผิดวินัยและจริยธรรมของการเป็นสมาชิกพรรคตามข้อบังคับพรรคข้อ 113 (2) (3) และ (12) จึงเห็นชอบด้วยมติเอกฉันท์ให้ลงโทษนางสาวพรพิมล ธรรมสาร ด้วยการให้พ้นจากสมาชิกภาพตามข้อบังคับพรรคข้อ 118 (4) ตามความเห็นของคณะกรรมการวินัยและจริยธรรม
จากนั้น จึงนำเข้าสู่ที่ประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยมีจำนวนกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. 143 คน มีผู้มาใช้สิทธิ 135 คน ผลการลงคะแนน ปรากฏว่า
นาย ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ มีผู้ลงคะแนนเห็นด้วยกับมติกรรมการบริหารพรรค 131 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง
นางสาว พรพิมล ธรรมสาร มีผู้ลงคะแนนเห็นด้วยกับมติกรรมการบริหารพรรค 134 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง ไม่ลงคะแนน 0 เสียง
ดังนั้น จึงถึอว่ามติที่ให้นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ และ นางสาวพรพิมล ธรรมสาร พ้นจากสมาชิกภาพของการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยมีเสียงเห็นด้วยไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 หรือ 108 เสียง ดังนั้น นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ และ นางสาวพรพิมล ธรรมสาร จึงพ้นจากความเป็นสมาชิกภาพพรรคเพื่อไทยนับแต่วันนี้เป็นต้นไป
‘ธนาธร’ เตือนเสี่ยงแน่ แผนเปิดประเทศของนายกฯ ทั่วโลกไม่ทำเปิดทั้งที่ไม่คลายล็อก
ธนาธร กล่าวถึงแผนเปิดประเทศของนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ ระบุ มีความเสี่ยงแน่ ไม่มีประเทศไหนในโลกเปิดประเทศทั้งที่ยังไม่คลายล็อก ทั้งที่ภายในประเทศยังคุมการระบาดไม่ได้ ชี้ไม่มีชาติไหนในโลกยังไม่คลายล็อกแล้วเปิดประเทศ เรียกร้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แจงให้ชัดรวมผลตรวจเอทีเคหรือไม่
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 ต.ค. 2564 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ออกแถลงการณ์เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (11 ต.ค.) โดยรายงานจากเว็บไซต์ วอยซ์ ออนไลน์ ระบุ ประธานคณะก้าวหน้าให้ความเห็นว่า การเปิดประเทศถือว่ามีความจำเป็น แต่สิ่งที่สำคัญคือการทำให้มั่นใจว่าภายในประเทศสามารถควบคุมได้จริงๆ ซึ่งเป็นวิธีที่ต่างประเทศทำกัน ต้องคลายล็อกภายในก่อน
ไม่มีประเทศไหนในโลกที่เปิดให้ข้างนอกเข้ามาโดยที่ข้างในยังไม่มีการคลายล็อก เมื่อภายในประเทศยังไม่เปิดแต่กลับเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศ ก็นึกไม่ออกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้ชีวิตภายในกรอบแบบเดียวกัน ซึ่งความเสี่ยงจะเห็นได้ชัดว่าจะทำให้ควบคุมความเสี่ยงไม่ได้
ดังนั้นเฉพาะหน้าตนอยากเห็นการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะเปิดประเทศโดยไม่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นที่ชัดเจนว่าการคงไว้ซึ่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ผ่านมาเอาไว้ปราบปรามคนเห็นต่างมากกว่าควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตนอยากเห็นการเปิดโรงเรียนให้มีการเรียนการสอนปกติ เพราะการเรียนการสอนออนไลน์เป็นภาระทั้งครูและนักเรียน โดยเฉพาะคุณภาพการเรียนทางอินเทอร์เน็ต
ขณะเดียวกันวันนี้ มติชนออนไลน์และเดอะสแตนดาร์ด ยังรายงานตรงกันว่าช่วงเช้าที่ผ่านมา นายธนาธร ได้เดินทางไปที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก เพื่อเข้าพบอัยการตามนัดหมายส่งตัวโดยพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ซึ่งได้มีการดำเนินคดีในข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากกรณีจัดไลฟ์เฟซบุ๊ก “วัคซีนพระราชทาน : ใครได้ใครเสีย?” โดยหลังเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน นายธนาธร ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนที่มาติดตามรายงานข่าวกรณีนี้ โดยระบุว่าส่วนตัวแล้วไม่มีความกังวลต่อคดีของตัวเอง เพราะตนเป็นบุคคลที่มีต้นทุนทางสังคมอยู่บ้าง กระบวนการทางกฎหมายจึงไม่ได้ยากลำบากนัก แม้จะเป็นกระบวนการที่ไม่ปกติและไม่ยุติธรรมก็ตาม
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป