โปรแกรมเล่นไฟล์เสียงในตำนาน – Winamp ได้กลับมาแล้ว ในรูปแบบเวอร์ชั่น 5.9 โดยถือว่าเป็นการกลับมาอย่างเป็นทางการหลังจากมีข่าวไปเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา (2 ส.ค. 2565) Winamp โปรแกรมเล่นไฟล์เสียงในตำนานได้กลับมาอีกครั้งแล้ว ภายใต้เวอร์ชั่นโปรแกรม 5.9 โดยถือว่าเป็นการกลับมาอย่างเป็นทางการหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวถึงการกลับมาพัฒนาตัวโปรแกรมอีกครั้งในปี 2018 ซึ่งก็เป็นการพัฒนาต่อจากที่ทิ้งไว้เมื่อปี 2013
ตัวโปรแกรมเวอร์ชั่น 5.9 RC1 Build 9999 ก็มาด้วยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
เริ่มที่การถ่ายโอนข้อมูลของโปรแกรมไปยัง Visual Studio 2019, พัฒนาในส่วนของฐานข้อมูล, การปรับให้ตัวโปรแกรมเข้ากับระบบปฏิบัติการ Windows 11, การอัปเดต Codec และอื่น ๆ อีกมากมาย
DJ Egg หนึ่งผู้รับผิดชอบโครงการชุบชีวิต Winamp ก็ได้เปิดเผยว่า “ตัวโปรแกรมนั้น ถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ได้มาจากการทำงานเป็นระยะเวลา 4 ปี นับตั้งแต่ที่เวอร์ชั่น 5.8 ได้ปล่อยออกไป ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ อาจจะดูไม่ใหญ่มากเท่าไหร่สำหรับผู้ใช้งาน เนื่องจากทีมงานพัฒนาที่มีเพียงแค่ 2 คน และการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่าน รวมถึงส่วนที่ยาก และใหญ่ที่สุดก็คือการย้ายตัวโปรแกรมทั้งหมดจาก VS2009 ไปเป็น 2019 ทำให้โครงการนี้ต้องใช้ระยะเวลานานเกินคาด แต่ด้วยการที่ส่วนงานที่ยากที่สุด และเป็นพื้นฐานนั้น ได้เสร็จสิ้นแล้วนั้น ก็ทำให้พวกเราสามารถให้ความสำคัญกับความสามารถต่าง ๆ ของระบบได้”
จากที่ DJ Egg ได้กล่าวไปนั้น พวกเขาเสียเวลาส่วนมากจากการต้องถ่ายโอนโครงสร้างของโปรแกรมจากเวอร์ชั่นเก่าไปสู่เวอร์ชั่นใหม่ และนั้นเป็นเพียงแค่โครงสร้างเท่านั้น โดยมันยังเหลืออะไรอีกหลายอย่างที่จะต้องทำให้เสร็จ ซึ่งก็จะทำให้ตัวโปรแกรมที่ปล่อยออกไปนั้นอาจจะมีปัญหาข้อบกพร่องอยู่เป็นจำนวนหนึ่ง ทั้งที่สามารถแก้ไขได้ง่าย และที่ต้องรอเวลาอีกซักพักใหญ่
สำหรับผู้ที่ติดใจกับโปรแกรมเล่นเพลงในวันวานก็สามารถจะไปรับมาทดลองใช้งานกันก่อนได้ที่นี่ : Winamp (วินแอมป์)
และการใช้งานล่าสุดอย่างการติดตามความเคลื่อนไหวของเครื่องบินบนน่านฟ้าประเทศยูเครน ในช่วงต้นของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ก็ทำให้เว็บไซต์ถึงกับล่มลง, การตรวจสอบประวัติเส้นทางของเครื่องบิน สายการบิน China Eastern เที่ยวบินที่ 5735 ที่ตกลงไปเมื่อเดือน 5735
ล่าสุดนี้บริการดังกล่าวก็ได้ถูกใช้งานในการติดตามการเดินทางเครื่องบินโดยสารที่นางแนนซี่ เพโลซี่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา ที่มีกำหนดการเดินทางเยื่อนประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ที่ก็รวมไปถึงไต้หวัน ที่ประเทศจีนได้ออกมาขู่ถึงการดำเนินการตอบโต้การเดินทางของเธอ ที่สุดท้ายนั้นก็ดำเนินไปได้ด้วยดี (ในระดับหนึ่ง)
ทั้งนี้แล้วนั้น ไฟลท์เรดาห์24 ก็ยังมีมาตรการในการปิดกั้นข้อมูลเพื่อ “ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว” สำหรับเครื่องบินบางเครื่อง หรือเที่ยวบินบางเที่ยวอีกด้วย เช่นกรณีเครื่องบินโดยสารสำหรับผู้นำประเทศญี่ปุ่น (Japanese Air Force One) ที่ได้มีการยื่นเรื่องจากกระทรวงความมั่นคงของญี่ปุ่นในการปิดกั้นข้อมูลดังกล่าวไป
อินโดนีเซีย ปิดกั้นการเข้าถึง Steam และบริการออนไลน์ต่าง ๆ
รัฐบาลประจำประเทศ อินโดนีเซีย ได้ดำเนินการปิดกั้นการเข้าถึงบริการออนไลน์บางส่วน เช่น Steam และ PayPal หลังจากที่ไม่ได้ลงทะเบียนในสัญญากฎหมายของ Kominfo
(31 ก.ค. 2565) รัฐบาล อินโดนีเซีย ดำเนินการปิดกั้นการเข้าถึงบริการออนไลน์บางส่วน เช่น ผู้ให้บริการด้านเกมส์ (Steam) และระบบการจ่ายเงิน (PayPal) หลังจากที่ไม่สามารถทำการลงทะเบียนภายในสัญญากฎหมายใหม่ของกระทรวงสื่อสารมวลชนประจำประเทศ หรือ Kominfo
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าผู้ที่ได้รับกระทบในครั้งนี้นั้นส่วนใหญ่จะเป็นผู้ให้บริการด้านเกมส์ อาทิ Steam, Epic Games, Battle Net, Ubisoft, Origin, Nintendo และผู้ให้บริการด้านธุรกรรมออนไลน์ เช่น PayPal ที่ซึ่งก็มีการเปิดแนวทางแก้ไขชั่วคราวด้วยการเปิดให้ผู้ใช้บริการในประเทศอินโดนีเซีย สามารถถอนเงินได้เป็นระยะเวลา 5 วัน ก่อนที่จะถูกปิดกั้นอีกครั้ง
ในส่วนของกฎหมายใหม่ (เผยแพร่เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2020) ของทาง Kominfo นั้น ก็มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญตรงที่ผู้ให้บริการต้องให้อำนาจในการเปิดเผยข้อมูลผู้ใช้งานบางส่วน (หรือตามที่หน่วยงานรัฐร้องขอ) และทำการลบล้างเนื้อหาที่ถูกมองว่าผิดกฎหมาย หรือส่งผลกระทบต่อระเบียบของสังคมภายในระยะเวลา 4 ชม.
และมาในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทางการอินโดนีเซียก็ได้เร่งเร้าให้บรรดาบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้ดำเนินการเซ็นลงทะเบียนรับรู้ หรือยินยอมในข้อกฎหมายที่ว่าก่อนเส้นตายวันที่ 20 ก.ค. 2565 โดยบางบริษัทนั้นก็ได้เน่งดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (Amazon, Facebook, และ Google) ในขณะเดียวกันนั้นก็ยังไม่ทราบถึงเหตุผลว่าทำไมบางบริษัทนั้นยังไม่เซ็นในกฎหมายที่ว่านี้
ด้วยการไม่สามารถเข้าถึงบริการเกมส์ได้นั้น ผู้เล่นเกมส์ และผู้สร้างสรรค์เนื้อหาฟรีแลนซ์ในประเทศอินโดนีเซียก็ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็มีทั้งที่กล่าวโทษตัวกฎหมายใหม่ที่ว่า, บริษัทที่ล่าช้าไม่เซ็น/ลงนามที่ว่านี้
จากข้อมูลทั้งหมดนั้นก็เป็นที่น่าสนใจว่า Intel ยังไม่แผนจะต่อกรกับการ์ดจอรุ่น High – End อย่าง RTX 3070 หรือที่สูงกว่านั้น ในเวลานี้แต่อย่างใด ทำให้ก็ต้องมารอดูว่าอะไรที่จะมากระทบไหล่หรือต่อสู้กับการ์ดในระดับนั้นได้กัน
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป